Measure What Matters book cover

วัดสิ่งที่สำคัญ

Google, Bono และมูลนิธิ Gates สร้างความเปลี่ยนแปลงให้โลกด้วย OKRs ได้อย่างไร

หนังสือ "วัดสิ่งที่สำคัญ" ของ John Doerr แนะนำ Objectives and Key Results (OKRs) ซึ่งเป็นระบบการตั้งเป้าหมายที่ปฏิวัติวงการที่ Google และบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอื่นๆ ใช้ หนังสือเล่มนี้ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการนำ OKRs ไปใช้ โดยแสดงให้เห็นว่า OKRs สามารถช่วยให้องค์กรและบุคคลบรรลุเป้าหมายที่กล้าหาญได้อย่างไรผ่านการมุ่งเน้น การจัดแนว และการติดตามที่โปร่งใส มีกรณีศึกษาจากองค์กรต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังของ OKRs ในการขับเคลื่อนประสิทธิภาพและส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความรับผิดชอบ

Book Details

Rating: ⭐⭐⭐⭐ 4.8/5
Published: 2018
Pages: 320
ISBN: 9780525536222
Difficulty: Intermediate
Formats:
Hardcover Paperback Digital Audiobook

About This Book

วัดสิ่งที่สำคัญ: Google, Bono และมูลนิธิ Gates สร้างความเปลี่ยนแปลงให้โลกด้วย OKRs ได้อย่างไร

หนังสือ วัดสิ่งที่สำคัญ ของ John Doerr เป็นผลงานชิ้นสำคัญที่นำแนวคิดอันทรงพลังของ Objectives and Key Results (OKRs) มาสู่ผู้ชมในวงกว้าง ในฐานะนักลงทุนร่วมทุนที่นำ OKRs มาใช้กับ Google ในช่วงแรกๆ Doerr นำเสนอข้อมูลเชิงลึกจากภายในว่าวิธีการตั้งเป้าหมายนี้ขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กรที่สร้างสรรค์ที่สุดในโลกได้อย่างไร

พลังของ OKRs

OKRs เป็นกรอบการทำงานที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพสำหรับการกำหนดและติดตามวัตถุประสงค์และผลลัพธ์ของวัตถุประสงค์นั้น วัตถุประสงค์ (Objective) คือ สิ่งที่ ต้องการบรรลุ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญ เป็นรูปธรรม มุ่งเน้นการกระทำ และสร้างแรงบันดาลใจ ผลลัพธ์หลัก (Key Results) คือ วิธีการ บรรลุวัตถุประสงค์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่เฉพาะเจาะจง วัดผลได้ และตรวจสอบได้ ซึ่งใช้ติดตามความคืบหน้าไปสู่วัตถุประสงค์

Doerr เน้นย้ำถึง “พลังวิเศษ” สี่ประการของ OKRs:

  1. การมุ่งเน้นและการมุ่งมั่นต่อลำดับความสำคัญ: OKRs บังคับให้บุคคลและทีมระบุและมุ่งมั่นต่อวัตถุประสงค์ที่มีผลกระทบสูงเพียงไม่กี่อย่าง ซึ่งช่วยขจัดสิ่งรบกวน
  2. การจัดแนวและการเชื่อมโยงเพื่อการทำงานเป็นทีม: ด้วยการทำให้วัตถุประสงค์และผลลัพธ์หลักโปร่งใสทั่วทั้งองค์กร OKRs ช่วยให้มั่นใจว่าทุกคนกำลังทำงานเพื่อเป้าหมายร่วมกัน ส่งเสริมการทำงานร่วมกันและป้องกันการแบ่งแยก
  3. การติดตามเพื่อความรับผิดชอบ: การติดตามผลลัพธ์หลักอย่างสม่ำเสมอช่วยให้มองเห็นความคืบหน้าได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ทันท่วงทีและส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความรับผิดชอบ
  4. การยืดหยุ่นเพื่อความสำเร็จที่น่าทึ่ง: OKRs ส่งเสริมการตั้งเป้าหมายที่ทะเยอทะยาน ผลักดันบุคคลและทีมให้ก้าวข้ามขีดจำกัดเพื่อบรรลุผลลัพธ์ที่ไม่ธรรมดา

กรณีศึกษาและการประยุกต์ใช้

หนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยกรณีศึกษาจากองค์กรที่หลากหลาย รวมถึง Google, Intel, Intuit และ Gates Foundation ซึ่งแสดงให้เห็นว่า OKRs ถูกนำไปใช้อย่างประสบความสำเร็จในบริบทต่างๆ ได้อย่างไร Doerr ยังแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกจากการสัมภาษณ์ผู้นำเช่น Larry Page, Sundar Pichai และ Bono ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่แท้จริงของ OKRs ต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม การเติบโต และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม

การนำ OKRs ไปใช้

Doerr ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับวิธีการนำ OKRs ไปใช้ โดยเน้นความสำคัญของ:

  • แนวทางจากบนลงล่างและจากล่างขึ้นบน: วัตถุประสงค์สามารถกำหนดได้ในระดับองค์กร ทีม และบุคคล โดยมีการจัดแนวที่ไหลไปทั้งสองทาง
  • จังหวะและการทบทวน: การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอและการทบทวนรายไตรมาสเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการติดตามความคืบหน้า การระบุอุปสรรค และการปรับปรุง OKRs
  • ความโปร่งใส: การเปิดเผย OKRs ต่อสาธารณะภายในองค์กรส่งเสริมความรับผิดชอบและการจัดแนว
  • การแยก OKRs ออกจากการประเมินผล: เพื่อส่งเสริมการตั้งเป้าหมายที่ทะเยอทะยาน OKRs ไม่ควรผูกติดโดยตรงกับการประเมินผลการปฏิบัติงานหรือโบนัส

บทสรุป

วัดสิ่งที่สำคัญ เป็นมากกว่าหนังสือเกี่ยวกับการตั้งเป้าหมาย เป็นแถลงการณ์สำหรับการบรรลุความยิ่งใหญ่ผ่านการดำเนินการที่มีวินัยและการสื่อสารที่โปร่งใส ด้วยการนำกรอบการทำงาน OKR มาใช้ องค์กรและบุคคลสามารถปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของตนเอง ขับเคลื่อนความก้าวหน้าที่มีความหมาย และ “สร้างความเปลี่ยนแปลงให้โลก” ได้อย่างแท้จริง